top of page

พิธีขอรับพระกรรมฐาน

ให้ผู้ปฏิบัติตั้งนะโม 3 จบพร้อมกัน

 

1. ผู้กล่าวนำ (ผู้เดียว)

นะมามิ พุทธัง คุณะสาคะรันตัง

นะมามิ ธัมมัง มุนิราชะเทสิตัง

นะมามิ สังฆัง มุนิราชะสาวะกัง

นะมามิ กัมมัฏฐานัง นิพพานะ ธิดะมุปปายัง

นะมามิ กัมมัฏฐานะ ทายะกาจะริยัง

นิพพานะมัคคุเทสะกัง สัพพัง โทสัง ขะมันตุ เมฯ

(ถ้าหลายคนใช้ ขะมันตุ โนฯ)

 

บูชาพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สะวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

 

ประเคนพานที่ 2 อาราธนาศีล 8

อะหังภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามิ

ทุติยัมปิ อะหังภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามิ

ตะติยัมปิอะหังภันเต ติสะระเณนะ สะหะ อัฏฐะ สีลานิ ยาจามิ

(ถ้าหลายคนเปลี่ยน อะหัง เป็น มะยัง และ ยาจามิ เป็น ยาจามะ)

 

หัวข้อศีล 8

1. ปาณาติปาตา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจาการฆ่าสัตว์ด้วยตนเอง และใช้ให้คนอื่นฆ่า)

2. อะทินนาทานา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการลักทรัพย์ด้วยตนเอง และใช้ให้ผู้อื่นลัก)

3. อะพรัหมะจะริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์ คือ ร่วมประเวณี)

4. มุสาวาทา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจาการพูดเท็จ)

5. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานาเวระมะนี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการดื่มน้ำเมา และสิ่งเสพติดทุกชนิด)

6. วิกาละโภชนา เวระมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล)

7. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนะ มาลาคันธะวิเลปะนะ ธาระณะมัณฑะนะ วิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขา    ปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี ดูการละเล่นต่างๆ ตลอดจนลูบ

ไล้  ทัดทรวง ประดับตบแต่งร่างกายด้วยเครื่องหอม เครื่องย้อม เครื่องทา ทุกชนิด)

8. อุจจาสะยะนะ มะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

(ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือเว้นจากการนอนบนที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในยัดเน้นด้วยนุ่นและสำลี)

อิมานิ อัฏฐะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (กล่าว 3 หน)

 

 

2. กล่าวคำมอบตัวต่อพระรัตนตรัย (พานที่ 3)

อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ

ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าพระองค์ขอมอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัยคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

3. คำมอบตัวต่อพระอาจารย์

อิมาหัง อาจะริยะ อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจจะชามิฯ

ข้าแต่พระอาจารย์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายตัวต่อครูบาอาจารย์เพื่อจะเจริญวิปัสสนากรรมฐานต่อไป

 

4. คำขอกรรมฐาน

นิพพานัสสะ เม ภันเต สัจฉิกะระนัตถายะ กัมมัฏฐานัง เทหิ

ข้าแต่ท่านอาจารย์ผู้เจริญ ขอท่านจงให้กรรมฐานแก่ข้าพเจ้า เพื่อจะทำให้แจ้งซึ่งมรรค ผล นิพพานต่อไป

 

5. คำแผ่เมตตา

อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพพะยาปัชโฌโหมิ, อนีโฆโหมิ สุขี อัตตานัง ปะริหะรา

มิขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข ปราศจากทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีความลำบาก ไม่มีความเดือดร้อน ขอให้มี ความสุขรักษาตนอยู่เถิด

สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ, อะเวรา โหนตุ, อัพพะยาปัชฌา โหนตุ, อะนีฆา โหนตุ, สุขี อัตตานัง ปะริหะ รันตุ

ขอให้สัตว์ทั้งหลายทุกตัวตน (ตลอดถึงเทพบุตร เทพธิดาทุกพระองค์ พระภิกษุสามเณร และผู้ปฏิบัติธรรม ทุกๆท่าน) จงเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่มีความลำบาก ไม่มีความเดือดร้อน ขอให้มีความสุขรักษาตนอยู่เถิด

 

6. คำเจริญมรณานุสติ

อัทธุวัง เม ชีวิตัง, ธุวัง เม มะระณัง อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง มะระณะปะริโยสานัง เม ชีวิตัง ชีวิตะเมวะ อะนิยะตัง มะระณัง นิยะตัง

ชีวิตของเราไม่แน่นอน ความตายแน่นอน ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเที่ยงที่สุด เพราะชีวิตของเรามีความ ตายเป็นที่สุด เป็นโชคดีที่เราได้มาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็น มนุษย์พบ พระพุทธศาสนา

 

7. คำตั้งสัจจะอธิษฐาน

เยเนวะ ยันติ นิพพานัง พุทธาเตสัญจะ สาวะกา เอกายะ เนนะ มัคเคนะ สติปัฏฐานะ สัญญินา

พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอัครสาวกซ้ายขวา พระอรหันตสาวก ทั้งหลายได้ดำเนินไปสู่พระนิพพาน ด้วยหนทางเส้นทางนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานปฏิญาณตนต่อพระรัตนตรัย และครูบาอาจารย์ว่า ตั้งแต่บัดนี้ต่อไป ข้าพเจ้า จะตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติจริงๆให้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน เจริญตาม พระองค์ท่าน

อิมายะ ธัมมานุธัมมะ ปะฏิปัตติยา ระตะนัตตะยัง ปูเชมิ

ข้าพเจ้าขอบูชาพระรัตนะ ด้วยการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คือ มรรค ผล นิพพาน นี้ ด้วยสัจจะวาจา ที่กล่าวอ้างมานี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน ด้วยเทอญ

 

8. คำขอขมา (พานที่ 4)

ผู้ขอขมา อาจาริเย ปมาเทนะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธังขะมะถะ เม ภันเต

(ถ้าหลายคนใช้ ขะมะตุ โน ภันเต)

อาจารย์กล่าว อะหังเตขะมามิ ตะยาปิ เม ขะมิตัพพัง

(ถ้าหลายคนใช้ โว ตุมเหหิปิ เม)

ผู้ขอขมารับ ขะมามิ ภันเต

(ถ้าหลายคนใช้ ขะมามะ ภันเต)

bottom of page