สำนักวิปัสสนาปฏิบัติบูชาพระพุทธบาทสี่รอย ตั้งอยู่ ณ ตำบลสะลวง  อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสำนักปฏิบัติธรรมสาขาของวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิวาร โดยการก่อตั้งของพระเดชพระคุณ พระธรรมมังคลาจารย์ วิ. (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) อัคคมหากัมมัฏฐานาจริยะ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร 

​

วาระจิตอันเป็นมหากุศล มหาบุญบารมีในการริ่เริ่มก่อตั้ง สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ เกิดจากที่พระเดชพระคุณพระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) เห็นความสำคัญของการบูชาพระพุทธบาททั้งสี่รอย ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทจริง ประทับลงบนหินศิลา อันเป็นปูชนียสถาน และเป็นสัญลักษณ์แห่งมหากัปป์ที่สำคัญที่สุดในจักรวาล ซึ่งพระพุทธเจ้าทั้ง ๔ พระองค์ในมหาภัทรกัปป์ คือพระพุทธเจ้ากุสันโธ พระพุทธเจ้าโกนาคมโน พระพุทธเจ้ากัสสโป  และพระพุทธเจ้าโคตโม ได้เสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้จริงโดยปาฏิหาริย์ อันเป็นบริโภคเจดีย์ การบูชาใดๆ ที่เป็นอามิสบูชา เช่น สักการะด้วยดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องหอมต่างๆ ถึงจะมีความสำคัญอยู่  และได้รับอานิสงส์มากก็ไม่เท่ากับการบูชาด้วยการปฏิบูชา ซึ่งเป็นการบูชาอย่างสูงสุด และเป็นที่มาของชื่อ "สำนักวิปัสสนาปฏิบัติบูชา พระพุทธบาทสี่รอย" พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) ได้เมตตาตั้งชื่อนี่ขึ้นมาเพื่อปฏิบัติธรรมบูชาแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย 

​

สมดังพุทธวจนะที่ตรัสกับพระอานนท์ว่า "

สมัยนั้น ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกสะพรั่งนอกฤดูกาล ดอกไม้ เหล่านั้นร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอก มณฑารพอันเป็นของทิพย์ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่น โปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของ ทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยัง พระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อ บูชาพระตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต ฯ  

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของ ตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอก มณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่ง จันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่น โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ใน อากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต

ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแล จะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตาม ธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอด เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติ ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ ฯ 

(เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  หน้าที่ ๑๓๓ - ๑๓๔.)

ดังนั่นพระเดชพระคุณ พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล) จึงได้นำคณะศรัทธา และศิษยานุศิษย์ ขึ้นมาสร้างสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ขึ้นตามแนวสติปัฏฐาน ๔ เพื่อจะได้ปฏิบัติธรรม เดินตามรอยหนทางของพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกทั้งหลายด้วยเส้นทางสู่มรรคผลนิพพาน คือสติปัฏฐาน ๔ จะทำใ้ถึงจุดมหายปลายทาง แม้ในชาตินี้และชาตไหนๆ ต่อมาพระพุทธองคืทรงตรัสกับพระสุภัททะ ซึ่งเป็นปัจฉิมสาวกว่า ถ้าพระภิกษุทั้งหลายปฏิบัติธรรมอยู่โดยอริยมรรค  โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย 

ดังพุทธวจนะว่าดังนี้ "เอกายะโน ภิกขะเว อะยัง มัคโค. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทางนี้เป็นที่ไปอันเอก สัตตานัง วิสุทธิยา. เพื่อความหมดจดวิเศษของสัตว์ทั้งหลาย, โสกะปะริเทวานัง สะมะติกกะมายะ เพื่อก้าวล่วงเสียซึ่งความโศกและความร่ำไร, ทุกขะโทมะนัสสานัง อัฏฐังคะมายะ. เพื่ออัศดงค์ดับไปแห่งทุกข์และโทมนัส, ญายัสสะ อะธิคะมายะ. เพื่อบรรลุญายธรรม, นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ. เพื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้ง, ยะทิทัง จัตตาโร สะติปัฏฐานาติ. ทางนี้คือสติปัฏฐาน ๔ อย่าง ด้วยประการฉะนี้"

ตามมหากุศลเจตนาที่ พระเดชพระคุณ พระธรรมมังคลาจารย์ (หลวงปู่ทอง สิริมงฺคโล)ได้ตั้งใจก่อตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติธรรมบูชาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรมตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทุกชนชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ปัจจุบันนี้สำนักปฏิบัติบูชาพระพุทธบาทสี่รอย มีความพร้อมในการจัดอมรมปฏิบัติธรรม ซึ่งจะมีผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่เป็นเป็นประจำ มีทั้งพระภิกษุ สามเณร  และอุบาสก อุบาสิกาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขา ด้านหลังวัดพระพุทธบาทสี่รอย ห่างประมาณ 200 เมตร  มีป่าไม้นานาชนิดปกคลุม บรรยายกาศเย็นสบายตลอดปี  เป็นที่สัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม

​